Photo Gallery
ขอทานกับเศรษฐี กาลครั้งหนึ่งนานพอควรในประเทศอินเดีย มีเศรษฐีผู้หนึ่งสังเกตเห็นว่ามีขอทานมายืนอยู่ใกล้ ๆ ประตูบ้านของตนเองอยู่บ่อย ๆ แต่ก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นบ้าง ไม่สนใจบ้าง จนขอทานเห็นว่าถึงเวลาต้องย้ายไปที่อื่น เพราะเศรษฐีผู้นี้ช่างไม่มีน้ำใจแบ่งปันเอาเสียเลย! เวลาผ่านไปเศรษฐีผู้นี้รู้สึกโล่งอกที่ขอทานหายไปแล้ว แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่จู่ ๆ ขอทานคนเดิมก็กลับมาอีก แถมมาอยู่ถึงหน้าประตูบ้าน แต่ก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจ จนวันหนึ่งขอทานร้องเพลงเสียงดัง ๆ เพื่อเรียกความสนใจจากเศรษฐี ฝ่ายตัวเศรษฐีผู้นี้รู้สึกรำคาญในเสียงเพลงนั้นยิ่งนักทนไม่ไหว ต้องเข้าบ้านไปหาอัฐมาให้ ๑ ถุง เพื่อให้ขอทานหยุดร้องเพลงเสีย! ฝ่ายขอทานหลังจากที่รับอัฐถุงนั้นมาแล้วเขารู้สึกดีใจมากรีบออกจากบ้านเศรษฐีไปในตอนแรก แต่แล้วต่อมาเขาเริ่มรู้สึกวิตกกังวลและหวงแหนอัฐนั้นเป็นอย่างมาก ครั้นถึงเวลานอนก็นอนอย่างกระสับกระส่ายเพราะกลัวว่าจะมีคนมาขโมยถุงอัฐนั้นไป ยิ่งนานวันยิ่งมีอาการหวาดระแวง จนหามีความสุขไม่! จากที่เคยเดินไปฮัมเพลงไป ทักทายผู้อื่นด้วยรอยยิ้มปนเสียงหัวเราะ กลับกลายเป็นคนเคร่งขรึม ยิ้มยาก เดินกอดอกอย่างระแวดระวังเพราะกลัวว่าถุงอัฐจะหล่นหาย จนท้ายที่สุดขอทานผู้นี้ทนไม่ไหว ต้องนำถุงอัฐนั้นไปคืนให้กับเศรษฐี เศรษฐีเมื่อพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ถึงกลับงง และไม่เข้าใจขอทานเอาเสียเลย จึงเอ่ยปากถามว่า เหตุใดเจ้าจึงนำอัฐนี้มาคืนแก่เรา ในเมื่อข้าได้ให้เจ้าไปแล้ว? เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: คนเราควรรู้จักให้ ให้ในสิ่งที่ควรให้ กล่าวคือสิ่งนั้นควรมีประโยชน์แก่ผู้รับไม่มากก็น้อย....ดังเช่นของที่ถวายสังฆทาน ควรมีข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อพระสงฆ์ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ แปรง ยาสีฟัน ยาสามัญประจำบ้านรวมอยู่ด้วย ส่วนของหมดอายุนั้นนำออกไปเสียดูจะเหมาะกว่า เป็นต้น.. |